This post is also available in: English
วิทยากรกระบวนการ:Thailand Policy Lab
สรุปสาระสำคัญ
Future of Agriculture อนาคตของเกษตรกรรมในภาคใต้
เพื่อทำความเข้าใจปัญหาในแต่ละจังหวัดกิจกรรมนี้แบ่งผู้เข้าร่วมเป็น 4 กลุ่ม จาก 4 จังหวัดคือ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และสงขลา ทำการวิเคราะห์ภูเขาน้ำแข็งของปัญหาโดยเลือกปัญหาสำคัญมาหนึ่งเรื่องแล้วระบุปัจจัยจากภาพที่ปรากฏไปจนถึง mindset ตามด้วยการระดมความคิดว่าอยากให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาสำคัญของจังหวัดอย่างไร
ผลจากการระดมความคิด โดยภาพรวมพบปรากฏการณ์ที่คล้ายกันคือ จำนวนเกษตรกรที่เป็นคนรุ่นใหม่ลดลง ภัยธรรมชาติทำให้ผลผลิตเสียหาย ขายในตลาดได้ราคาไม่ดี รากเหง้าเชิงโครงสร้างคือ ระบบราชการไม่ได้อำนวยให้เกษตรกรมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ แนวโน้มของปรากฏการณ์คือ คนหันไปทำอาชีพอื่น ค่านิยมความเชื่อมร่วมกันที่มีคือ เกษตรกรเป็นอาชีพที่ไม่มีเกียรติ ไม่ต้องมีความรู้ในการประกอบอาชีพ
จังหวัดยะลา ทัศนคติด้านคุณค่าของการทำอาชีพการเกษตรที่ไม่มีรับเกียรติเท่าอาชีพอื่นคือข้อจำกัดที่อยู่ด้านล่างสุดของภูเขาน้ำแข็ง ส่วนแนวทางในการแก้ไขที่ต้องทำควบคู่กันกับการขาดการสนับสนุจากภาครัฐก็คือ กรมต่างๆ ต้องมีการระบุอำเภอพื้นที่เป้าหมายและปรับ mindset ของสังคมและเกษตรกรให้เกิดความภาคภูมิใจในการทำการเกษตรว่ามันไม่ได้ง่าย ปัจจัยที่ผลักดันความสำเร็จคือการมีอนุกรรมการเกษตรจังหวัด ที่จะทำให้การดำเนินงานพื้นที่นำร่องสำเร็จ ปัจจัยที่เหนี่ยวรั้งคือการขาดความรู้จริง ความเชี่ยวชาญ โรคระบาด แรงจากอนาคต จะมีความตื่นตัวหลังจากโรคระบาดใหม่และมุมมองที่ดีต่อเกษตรรุ่นใหม่
จังหวัดสงขลา ปรากฏการณ์คือเกษตรลดลง ขาดการส่งต่อจากรุ่นพ่อแม่ กลไกตลาดก็คุมราคาไม่ได้ ขาดการดูแล สนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐ การเยียวยาไม่ถูกจุด ไม่เพียงพอ แรงหนุนจากน้อยลงที่จะทำให้คนอยากมาเป็นเกษตรกร ส่วนแนวทางในการแก้ไขของภาครัฐ คือต้องมีการสนับสนุนจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ต้องมีเจ้าภาพในการบูรณาการ ต้องมีการแก้ไข พรบ.งบประมาณ ปัจจัยที่ผลักดันความสำเร็จคือ ภาคประชาสังคมและกระแสเกษตรอินทรีย์ ปัจจัยที่เหนี่ยวรั้งคือ วิสัยทัศน์ของผู้นำ กรอบกฎระเบียบที่ทำให้เบิกไม่ได้ เบิกได้น้อยไม่เท่ากัน แรงจากอนาคต คือ คณะผู้นำชุดใหม่ มันจะดีถ้ามีวิทยาลัยเกษตรอินทรีย์ที่เป็นแบบ Short-course เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
จังหวัดปัตตานี สาเหตุในเชิงค่านิยมที่ทำให้เกษตรกรน้อยลงก็คือ มันไม่เท่ห์ สภาพภูมิอากาศแปรปรวน ภาพลักษณ์ของเกษตรต่างประเทศคือการใช้เทคโนโลยีมาควบคุมการผลิตและผลกระทบจากภูมิอากาศ วิธีแก้คือต้องปรับจูนค่านิยมผ่านระบบการศึกษา ว่าการทำเกษตรอย่างขายผัก ไลฟ์สด ขายดีนี่เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ ในอนาคตจะเกิดการขาดแคลนอาหารแน่นอน ปัจจัยที่ผลักดันความสำเร็จคือ เกษตรกรใจเต็มร้อยไม่ทิ้งอาชีพ ปัจจัยที่เหนี่ยวรั้งคือ ภาครัฐมีระบบล่าช้า ทุนสูง แรงจากอนาคต คือ การทำสมาร์ทฟาร์ม วนเกษตร เกษียณด้วยเกษตรจะเป็นเทรน
จังหวัดนราธิวาส กระบวนการทำความเข้าใจอย่างมีส่วนร่วมที่ทำมาทั้งวันทำให้พบว่า ทางออกของสภาพการณ์ปัญหาที่เผชิญอยู่คล้ายกับพื้นที่อื่นคือ ต้องมีการทำฐานข้อมูล พัฒนาศักยภาพของคนทำงานในภาครัฐที่อยู่ในโครงสร้างหลัก ใช้ตัวแบบจากกรณีที่ประสบความสำเร็จมาขยายบทเรียน ช่วยเหลือกลุ่มย่อย แล้วนำบทเรียนมาทบทวนยุทธศาสตร์จังหวัดเพื่อพัฒนาการดำเนินงานร่วมกับเกษตรกร ว่าแผนนั้นสอดคล้องกับความเป็นจริงหรือไม่ แล้วมาปรับโครงการที่มันควรจะลงทุน ลดงบประมาณโครงการไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ซึ่งไม่ควรลงทุน ความมั่นคงทางอาหาร ความมั่นคงทางรายได้ถึงจะเกิดขึ้นได้
สุดท้ายเสียงสะท้อนต่อประโยชน์ของ Policy Lab คือ อยากให้มี Lab สัญจร ที่ทำให้ชุมชนเกิดการมีส่วนร่วมและการออกแบบได้จริงโดยชุมชนตั้งต้นและลงมือทำด้วยตัวเอง
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ กรุณาศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และกดยอมรับ/allow
ใส่ความเห็น